การเช็คพัสดุ ด้วยมือถือ ทำได้ง่ายๆ เพียงไม่กี่ขั้นตอน

ในปัจจุบัน การซื้อของออนไลน์ได้รับความนิยมมากขึ้น ส่งผลให้การขนส่งพัสดุมีบทบาทสำคัญในการส่งมอบสินค้าให้กับลูกค้า การเช็คพัสดุจึงเป็นสิ่งที่สำคัญเช่นกัน เพื่อให้ทราบสถานะและตำแหน่งของพัสดุว่าถึงไหนแล้ว จะได้วางแผนรับพัสดุได้

การเช็คพัสดุสามารถทำได้หลายวิธี แต่วิธีที่สะดวกและรวดเร็วที่สุดคือการใช้มือถือ ซึ่งสามารถทำได้ง่ายๆ เพียงไม่กี่ขั้นตอน ดังนี้

1. เตรียมเลขพัสดุ

สิ่งแรกที่ต้องเตรียมคือเลขพัสดุ ซึ่งจะระบุอยู่บนใบปะหน้าพัสดุ หรือสามารถสอบถามได้จากร้านค้าที่ส่งพัสดุมาให้

2. เลือกช่องทางการเช็คพัสดุ

ปัจจุบันมีผู้ให้บริการขนส่งพัสดุหลายราย ซึ่งแต่ละรายมีช่องทางการเช็คพัสดุที่แตกต่างกัน ดังนี้

  • เว็บไซต์ของผู้ให้บริการขนส่งพัสดุ : ช่องทางนี้สะดวกและรวดเร็วที่สุด เพียงแค่กรอกเลขพัสดุลงในช่องที่กำหนด ระบบก็จะแสดงสถานะและตำแหน่งของพัสดุ
  • แอปพลิเคชันของผู้ให้บริการขนส่งพัสดุ : ช่องทางนี้สะดวกเช่นกัน เพียงแค่ติดตั้งแอปพลิเคชันบนมือถือ จากนั้นกรอกเลขพัสดุลงในช่องที่กำหนด ระบบก็จะแสดงสถานะและตำแหน่งของพัสดุ
  • เว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันเช็คพัสดุกลาง : ช่องทางนี้เหมาะสำหรับการเช็คพัสดุจากผู้ให้บริการขนส่งพัสดุหลายรายพร้อมกัน เพียงแค่กรอกเลขพัสดุลงในช่องที่กำหนด ระบบก็จะแสดงสถานะและตำแหน่งของพัสดุจากผู้ให้บริการขนส่งพัสดุทั้งหมด

3. เข้าสู่ระบบ

หากต้องการเช็คพัสดุผ่านเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของผู้ให้บริการขนส่งพัสดุ จำเป็นต้องเข้าสู่ระบบก่อน โดยส่วนใหญ่จะใช้หมายเลขโทรศัพท์หรืออีเมลเป็นชื่อผู้ใช้และรหัสผ่าน

4. กรอกเลขพัสดุ

เมื่อเข้าสู่ระบบแล้ว ให้เลือกเมนูเช็คพัสดุ จากนั้นกรอกเลขพัสดุลงในช่องที่กำหนด

5. ตรวจสอบสถานะและตำแหน่งของพัสดุ

ระบบจะแสดงสถานะและตำแหน่งของพัสดุให้ทราบ โดยสถานะพัสดุจะมีดังนี้

  • รอรับสินค้า : พัสดุมีโผล่ที่ศูนย์กระจายสินค้าของผู้ให้บริการขนส่งพัสดุ
  • อยู่ระหว่างจัดส่ง : พัสดุมีโผล่ที่สาขาของผู้ให้บริการขนส่งพัสดุที่ใกล้ผู้รับพัสดุ
  • จัดส่งสำเร็จ : พัสดุมีโผล่ที่หน้าบ้านหรือสถานที่รับพัสดุ

ตัวอย่างการเช็คพัสดุผ่านเว็บไซต์ของ Kerry Express

  1. เข้าเว็บไซต์ของ Kerry Express (https://th.kerryexpress.com/)
  2. คลิกที่เมนู “เช็คพัสดุ”
  3. กรอกเลขพัสดุลงในช่อง “หมายเลขพัสดุ”
  4. คลิกที่ปุ่ม “ค้นหา”
  5. ระบบจะแสดงสถานะและตำแหน่งของพัสดุ

ตัวอย่างการเช็คพัสดุผ่านแอปพลิเคชันของ Shopee

  1. ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันของ Shopee
  2. เข้าสู่ระบบด้วยหมายเลขโทรศัพท์หรืออีเมล
  3. คลิกที่เมนู “พัสดุ”
  4. เลือกพัสดุที่ต้องการเช็คสถานะ
  5. ระบบจะแสดงสถานะและตำแหน่งของพัสดุ

ข้อดีของการเช็คพัสดุ ด้วยมือถือ

การเช็คพัสดุ ด้วยมือถือมีข้อดีหลายประการ ดังนี้

  • สะดวกและรวดเร็ว สามารถทำได้ทุกที่ทุกเวลา เพียงมีมือถือและอินเทอร์เน็ต
  • เข้าถึงข้อมูลได้ทันที ไม่ต้องรอเจ้าหน้าที่ตอบกลับ
  • ได้รับข้อมูลครบถ้วน ระบบจะแสดงสถานะและตำแหน่งของพัสดุให้ทราบอย่างชัดเจน

เทคนิคการเช็คพัสดุให้มีประสิทธิภาพ

เพื่อให้การเช็คพัสดุมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น สามารถทำได้ดังนี้

  • จดเลขพัสดุเก็บไว้ เพื่อป้องกันสูญหายหรือลืม
  • เช็คพัสดุเป็นประจำ อย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง
  • ติดตามสถานะพัสดุอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะช่วงใกล้ถึงวันรับพัสดุ

หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณเช็คพัสดุ ด้วยมือถือได้อย่างสะดวกและรวดเร็วนะครับ

 

การเช็คพัสดุด้วยมือถือเป็นกระบวนการที่สะดวกและมีประโยชน์มากในยุคดิจิทัลนี้ เพื่อให้คุณเช็คพัสดุได้อย่างมีประสิทธิภาพ นี่คือ 10 บทเรียนที่ควรทราบ:

  1. เลือกแอปพลิเคชันที่เหมาะสม
    เลือกใช้แอปพลิเคชันจากบริษัทจัดส่งที่เชื่อถือได้ เช่น DHL, FedEx, UPS หรือจากบริการในประเทศ เช่น ไปรษณีย์ไทย หรือ Kerry Express เพื่อความสะดวกในการติดตามพัสดุ
  2. ตรวจสอบข้อมูลการจัดส่ง
    เมื่อได้รับหมายเลขติดตาม (Tracking Number) ตรวจสอบให้แน่ใจว่าข้อมูลถูกต้องและครบถ้วน เพื่อป้องกันความผิดพลาดในการติดตามพัสดุ
  3. ใช้หมายเลขติดตาม (Tracking Number)
    หมายเลขติดตามเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการเช็คสถานะพัสดุ กรุณาเก็บรักษาและป้อนหมายเลขนี้ในแอปหรือเว็บไซต์ของผู้ให้บริการจัดส่ง
  4. เปิดการแจ้งเตือน (Notifications)
    เปิดการแจ้งเตือนในแอปพลิเคชันเพื่อรับข้อมูลอัปเดตเมื่อพัสดุของคุณเปลี่ยนสถานะหรืออยู่ในขั้นตอนการจัดส่งที่สำคัญ
  5. เช็คสถานะพัสดุเป็นระยะ
    เช็คสถานะพัสดุบ่อยๆ เพื่อให้ทราบถึงการเปลี่ยนแปลงและสามารถจัดการกับปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ทันที
  6. ตรวจสอบที่อยู่จัดส่ง
    ตรวจสอบให้แน่ใจว่าที่อยู่จัดส่งถูกต้องและครบถ้วน เพื่อป้องกันการส่งพัสดุผิดที่
  7. ติดต่อฝ่ายบริการลูกค้า
    หากมีปัญหาหรือข้อสงสัยเกี่ยวกับสถานะพัสดุ ควรติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าของผู้ให้บริการจัดส่งเพื่อขอความช่วยเหลือ
  8. ใช้ฟังก์ชันสแกนบาร์โค้ด
    บางแอปพลิเคชันมีฟังก์ชันสแกนบาร์โค้ดเพื่อความสะดวกในการป้อนหมายเลขติดตาม เพียงแค่สแกนและระบบจะกรอกข้อมูลให้โดยอัตโนมัติ
  9. บันทึกหมายเลขพัสดุและรายละเอียดการจัดส่ง
    บันทึกหมายเลขพัสดุและรายละเอียดการจัดส่งไว้ในมือถือของคุณ หรือในแอปโน้ตเพื่อความสะดวกในการติดตามและตรวจสอบ
  10. ระมัดระวังการหลอกลวง
    ระวังการหลอกลวงจากอีเมลหรือข้อความที่แอบอ้างว่าเป็นผู้ให้บริการจัดส่ง ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณใช้แอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ที่เชื่อถือได้

การเช็คพัสดุด้วยมือถือเป็นวิธีที่ง่ายและรวดเร็ว เพื่อรับข้อมูลที่ถูกต้องและทันสมัยเกี่ยวกับการจัดส่งพัสดุของคุณ อย่าลืมนำบทเรียนเหล่านี้ไปใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการติดตามพัสดุของคุณ